ทุกเรื่องล้วนมีเหตุปัจจัยให้ต้องเกิดขึ้นทั้งสิ้น
การที่เราอยู่ในยุคสื่อออนไลน์ครองโลกขณะนี้
เราเสพสื่อทางสายตามากกว่าข้าวปลาอาหารที่กินเข้าไปในแต่ละวัน พฤติกรรมเคยชินเหล่านี้
ได้บ่มเพาะนิสัยชนิดหนึ่ง นั่นคือมักตัดสินถูก
หรือผิดกันที่ปลายเหตุ แค่เพียงการดูภาพถ่าย หรือคลิปวีดีโอสั้นๆ ที่ถูกนำเสนออย่างเสรี ในพื้นที่สาธารณะ
ลองอ่านบทความเรียบๆ สำนวนไม่ฉูดฉาดอะไร
แต่เชื่อว่าคุณจะได้อะไรมากว่าความรู้
นั่นคือทักษะการวิเคราะห์เหตุการณ์ ด้วยความเข้าใจที่เป็นกลางๆ
ค่อยๆ ตามเหตุไปหาผลกัน ทีละบรรทัดนะครับ
ประเทศไทยมี 3 สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์
สถาบันชาติอยู่ได้ด้วยระบบการเมืองและระบบเศรษฐกิจ
สถาบันศาสนาอยู่ได้ด้วยศรัทธาของชาวพุทธ
สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจงรักภักดีของประชาชน
ปี 2557 ระบบการเมืองพัง
ปี 2558 ระบบเศรษฐกิจพัง
ปี 2559
คนกลุ่มเดิมกำลังจะพังพระพุทธศาสนา
1) ปัญหาการเมือง เกิดจาก
การเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญบ่อยเกินไป
จนทำให้อำนาจบริหาร อำนาจตุลาการ
อำนาจนิติบัญญัติ
เกิดการขัดแย้งกันเอง
จนกระทั่งไม่สามารถบริหารประเทศได้
2) เศรษฐกิจประกอบด้วย 4 ส่วนหลักคือ
การเกษตร การอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว
และสถาบันการเงิน
ปัญหาของภาคการเกษตรคือ
ผลผลิตออกมาแล้วขายไม่ได้ ราคาตกลงไปเรื่อยๆ
ปัญหาของภาคอุตสาหกรรมคือ
ผลิตสินค้าออกมาแล้วขายไม่ออก
ไม่มีตลาดต่างประเทศ
ปัญหาของภาคการท่องเที่ยวคือ
นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมาเมืองไทยน้อยลง
สายการบินไทยหลายสายมีปัญหาด้านการบริการที่ไม่ประทับใจ
ภาพลักษณ์ติดลบของประเทศไทย
ที่เป็นดินแดนอาชญากรรมในสายตานักท่องเที่ยว
ปัญหาของสถาบันการเงินคือ
หนี้เสียทั้งในระบบและนอกระบบ
เกิดระบบการทวงหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบตามมามากมาย
บรรยากาศการลงทุนมีความเสี่ยงต่อการขาดทุนสูง
3) ปัญหาของพระพุทธศาสนา คือ
มีกลุ่มคนพยายามล้มสถาบันสงฆ์อย่างเป็นขั้นตอน
ตัวอย่างเช่น
3.1) มีการใช้กฎหมายจาบจ้วงพระธรรมวินัยเพื่อรื้อฟื้นคดีสงฆ์ที่จบไปแล้ว
3.2) มีการเสนอร่างกฎหมายใหม่เพื่อยึดทรัพย์สินที่ดิน
ของสงฆ์และพระพุทธศาสนาไว้ในการดูแลของคนบางกลุ่ม
3.3) มีการใช้กฎหมายฟอกเงินและข้อหารับของโจร
กับการทำบุญหรือการบริจาคในพระพุทธศาสนา
3.4) มีกลุ่มคนพยายามใช้กฎหมายบีบบังคับ
ให้มหาเถรสมาคมทำผิดพระธรรมวินัย
3.5) มีการพยายามใช้กฎหมายเอาผิดมหาเถรสมาคม
เพื่อชงเรื่องเข้าสู่กระบวนการกฎหมายด้วยข้อหาหนัก
คือเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ซึ่งเป็นข้อหาที่กลั่นแกล้งกันได้ง่าย
ประกันตัวได้ยาก
และมักลงท้ายด้วยการจับสึกหรือจับติดคุกก่อนศาลจะตัดสิน
ประเทศชาติอยู่ได้ด้วยประชาชน
ถ้าไม่มีประชาชนก็ไม่มีประเทศ
พระพุทธศาสนาอยู่ได้ด้วยสังฆมณฑล
ถ้าไม่มีมหาเถรสมาคม ก็ไม่มีสังฆมณฑล
ก็ไม่มีพระพุทธศาสนา
ถ้าหากพระพุทธศาสนาถูกทำลายลงอีก
ก็เท่ากับว่าสถาบันหลักของประเทศถูกทำลาย
ความหวังที่จะฟื้นฟูระบบการเมือง
และระบบเศรษฐกิจก็เป็นอันจบสิ้น
นี่คือเหตุผลที่ทำไมพระท่านถึงต้องมาประชุมหารือกัน
ในหัวข้อ "สกัดแผนล้มพระพุทธศาสนา"
ที่พุทธมณฑล
ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
Cr. https://www.facebook.com/tchinungkuro
ปล. เป็นความคิดเห็นส่วนตัว
--------------------------------------------------------------------
เราสามารถคูลดาวน์ อารมณ์กรุ่นๆ
ยามเจอสถานการณ์เกรียนๆ ได้ไม่ยากหากตั้งสติแล้วค่อยๆ คิดสาวเหตุไปหาผล คิดให้มีหลัก หัวใจหนักแน่น ก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ในการช่วยพระศาสนาแนวประเทืองปัญญาได้ดีเหมือนกันครับ
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ